ราคาบอลนั้นหลายๆ คนคงเข้าใจและคิดว่ามันคือ อัตราการจ่าย หรืออัตราการต่อรอง ซึ่งนั่นก็ไม่ผิด แต่อันที่จริงแล้วนั้นราคาบอลมันมีอะที่มากกว่าอัตราการจ่าย หรือ อัตราการต่อรอง ซึ่งมันจะสัมพันธ์กันเป็น วงกลม โดยมี คู่บอล > ราคาบอล (อัตราการต่อรอง) > ค่าน้ำ ซึ่งสามสิ่งนี้มันสัมพันธ์กันอย่างไรนั้น เรามาทำความรู้จักให้ละเอียดในแต่ละประเภทกันครับ
- ราคาบอล
อันที่จริงในภาษาการแทงบอลนั้น ราคาบอล มักจะถูกเรียกว่าค่าน้ำ ซึ่งก็คือราคา ที่ออกมาจากอัตราต่อรองนั่นเอง ซึ่งราคาบอล หรือค่าน้ำบอลนั้น จะมากหรือน้อยนั้นอยู่ที่อัตราความเสี่ยงของอัตราการชนะ กล่าวคือ ถ้าราคาบอลมีราคาสูง หรือ ค่าน้ำสูง นั่นแปลว่าโอกาสชนะนั้นก็จะมีได้ยาก มากว่าราคาบอลต่ำ หรือค่าน้ำต่ำ
ยกตัวอย่างเช่น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs เชลซี
- ราคาที่ 1 อัตราต่อรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 0.5 ราคาบอล(ค่าน้ำ 0.89) เท่ากับว่า แทง 100 บาท จะได้กำไร 89 บาท
- ราคาที่ 2 อัตราต่อรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต้ด อยู่ที่ 0.5/1 ราคาบอล(ค่าน้ำ 1.15) เท่ากับว่า แทง 100 บาท จะได้กำไร อยู่ที่ 115 บาท
ข้อสังเกต เมื่ออัตราต่อรองมีความเสี่ยงสูงขึ้น ราคาบอล นั้นก็จะสูงขึ้นตามนั่นเอง จะเห็นได้ว่าในราคาบอลที่ 1 นั้นมีอัตราต่อรองที่ 0.5 ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่า ราคาที่ 2 ที่มีอัตราต่อรอง 0.5/1 นั่นเอง
- ราคาบอลไหล
ราคาบอลไหลนั้น อันที่จริงนั้นก็คือราคาบอล ที่มีการแปรผันปรับขึ้นปรับลง ตามความเป็นไปได้ และ โอกาสของทีมนั้น เช่น ราคาของคู่ ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน ตอนก่อนเริ่มแข่ง นั้นราคา ตั้งมาอยู่ที่ ลิเวอร์พูล ต่อ -1 อัตราค่าน้ำ 1.00 แต่พอมาตรวจสอบราคา ก่อนบอลจะเริ่มเตะจริงๆ อัตรา ต่อ -1 แต่มีอัตราค่าน้ำต่ำลงจาก 1.00 เป็น 0.95 นั่นสามารถแปลความหมายได้ 2 กรณีดังนี้
- กรณีที่ 1 ค่าน้ำ หรือ ราคาบอล ลดลง ไปเนื่องจาก มีจำนวนคนแทงมาก และโอกาสความเป็นไปได้สูงมากขึ้น โต๊ะบอลจะทำการปรับระบบให้ค่าน้ำต่ำลง
- กรณีที่ 2 ค่าน้ำ หรือ ราคาบอล ลดลง เป็นเพราะมีคข่าวความเป็นไปได้ที่ลิเวอร์พูลจะชนะมากขึ้น อาจเป็นเพราะ นักเตะฟอร์มดีหายเจ็บ หรือ ทีมตรงข้าม ประกาศรายชื่อนักเตะแล้ว ตัวเก่งของทีมนั้นๆ ดันเจ็บ ซึ่งเท่ากับว่า ปัจจัยทุกอย่างที่ทำให้ลิเวอร์พูล ชนะมากขึ้น จะทำให้ราคานั้น ไหลต่ำลง นั่นเอง
หลังจากที่ราคาไหลลงต่ำจนถึง ประมาณ 15 – 20 % แล้ว ทางโต๊ะบอล จะปรับอัตราต่อรองเพิ่มขึ้น เพราะโอกาสชนะของทีม ลิเวอร์พูล หรือทีมนั้นๆ มีโอกาสชนะสูงขึ้น ราคาต่อรองก็จะสูงขึ้น และ อัตราค่าน้ำก็จะสูงขึ้น
ข้อสังเกต เมื่ออัตราต่อรองมีการขยับลงก่อนแข่งนั้น สามารถเดาได้เลยว่า ทีมนั้นๆ มีโอกาสชนะมากขึ้น และเป็นคู่ที่ผู้คนได้รับความสนใจและแทงมากขึ้น แต่หากราคานั้น ขยับสูงขึ้น นั้นแปลว่าโอกาสทีมนั้นที่จะชนะก็มีน้อยลงราคาจึงปรับให้สูงขึ้นนั่นเอง
สรุป
ยิ่งราคามีการปรับตัวขึ้นสูงหรือราคาสูง ความเสี่ยงก็จะสูงตาม และ ราคาที่มีการปรับหรือขยับลง หรือ ราคาต่ำ ความเสี่ยงก็ต่ำตามลงมาเช่นกัน นี่คือรายละเอียด ราคาบอล แบบพื้นฐานที่ควรรู้ และ ติดตามบทความ ราคาบอลชนิดอื่นๆ ได้ในบทความหน้า